เชื่อได้ว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนักร้องสาวลูกทุ่งชื่อดังที่มีเอกลักษณ์ทางการแสดงบนเวทีไม่เหมือนใครทั้งท่าเต้นที่ชวนให้ซี้ดปาก ไหนจะแหก แหวก โยกย้ายส่ายเอว เรียกได้ว่าเด็ดสะระตี่ทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ใจเต้นสั่นรัวเลยทีเดียว ยังไม่นับบทเพลงที่เธอขับร้องออกมาจนฮิตติดชาร์จยอดวิวในยูทูปทะลุหลัก 100 ล้านวิวเพียงชั่วข้ามคืน ซึ่งคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าของบทเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” สาวลำไย ไหทองคำนั่นเอง
“ลำไย ไหทองคำ” หรือชื่อจริงว่า “สุพรรษา เวชกามา” มีภูมิลำเนาบ้านเกิดอยู่ที่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ฐานะทางครอบครัวค่อนข้างยากจนจึงทำให้ต้องย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อมาช่วยแม่ เดินหิ้วตะกร้าขายพวกลูกอม ถั่ว ตามแหล่งสถานบันเทิงย่านพรานนกตั้งแต่สมัยอยู่ชั้นอนุบาล
เมื่อเรียนชั้นป.4 ก็เริ่มออกเดินสายเป็นนักร้องวงดนตรีอิเล็กโทน ได้ค่าจ้างเพียงแค่วันละ 150 บาท นำมาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว เมื่อจบป.6 สอบเข้าเรียนต่อทางด้านนาฎศิลป์ ศาลายา โดยตั้งใจว่าจะศึกษาหาความรู้ด้านการแสดงอย่างจริงจัง แต่สุดท้ายก็ต้องลาออกไปตอนม.5 เพราะกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการแสดงบนเวทีของเธอ ที่อาจเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชน
ส่วนที่มาของชื่อลำไย ไหทองคำมาจากการเดินสายตะเวนร้องเพลงจนมาเจอกับอาจารย์ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ จึงได้เซ็นต์สัญญาเป็นศิลปินในสังกัดของท่าน และอาจารย์ก็ได้ตั้งชื่อให้ว่า “ ลำไย ไหทองคำ” มีเพลงที่ถูกทำขึ้นมา 17 เพลงแต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
สำหรับเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ถูกแต่งขึ้นจากอาร์ม ชุติมา ซึ่งเธอเองก็ไม่คิดว่ากระแสจะดังมากขนาดนี้ แต่ที่ดังขึ้นมาได้คาดว่าน่าจะมาจากท่าเต้นที่ชวนหวาดเสียวจนทำให้เป็นที่ติดใจกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง ประกอบกับการเอ็นเตอร์เทรนแฟนๆ ที่มาชมการแสดง และจากความดังของเทอส่งผลให้เธอสามารถหารายได้เข้าบ้านมากขึ้นจากเดิมวันละ 150 บาท ขยับมาเป็นราคาเต็มวงที่ 65,000 บาทต่องานนับว่าเป็นรายได้ที่ไม่น้อยเมื่อเทียบกับเด็กอายุเท่านี้
ถึงแม้ว่าจะมีกระแสต่อต้านหรือหาว่าเลียนแบบนักร้องรุ่นพี่อย่าง “จ๊ะ คันหู” ก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้เธอย่อท้อ เธอกลับมองว่าความสำเร็จในตอนนี้เป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น เธอยังคงต้องพิสูจน์ตัวอีกมาก เพื่อที่สามารถยืนอยู่ในวงการได้อย่างยาวนานและมั่นคง รวมทั้งเข้าไปนั่งอยู่ในใจของเหล่าบรรดาแฟนคลับตลอดไป นอกจากนั้นจะได้มีรายได้เข้ามาเลี้ยงดูครอบครัวให้ทั้งแม่และยายอยู่กันอย่างสบายไม่ลำบากอีกต่อไป